อยากทำลิปสติกแบรนด์ตัวเอง กับ 10 ขั้นตอนเป็นเจ้าของแบรนด์ลิปสติกของตัวเองได้ง่าย ๆ

อยากทำลิปสติกแบรนด์ตัวเอง

อยากทำลิปสติกแบรนด์ตัวเอง คงเป็นความฝันของใครหลาย ๆ คน ที่ชื่นชอบการแต่งหน้าหลายๆคน ว่าอยากมีลิปสติก (หรือเครื่องสำอางอื่นๆ) เป็นแบรนด์ของตัวเองบ้างสักครั้ง และด้วยความที่ตลาดเครื่องสำอางบ้านเรานั้นเติบโตเร็วเป็นอย่างมาก กอปกับรสนิยมของผู้บริโภคที่ชื่นชอบสินค้าที่แปลกใหม่ ดังนั้นแบรนด์ใหม่จึงมีโอกาสเติบโตได้ไม่ยากเลย  วันนี้เรามีเคล็ดลับสำหรับมือใหม่ที่อยากเป็นของแบรนด์ลิปสติกของตัวเองมาฝากกัน เรามาดูกันดีกว่าว่าจะทำลิปสติกแบรนด์ของเราเองได้อย่างไรบ้าง


1.เก็บข้อมูลลิปสติก

อยากทำลิปสติกแบรนด์ตัวเอง

เมื่อเราจะทำลิปสติกขาย เราก็ต้องรู้เรื่องลิปสติกก่อน ศึกษาว่าลิปสติกมี ลักษณะไหนบ้าง ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการศึกษาตลาดไปในตัวด้วย ว่าในท้องตลาดเขามีสินค้ารูปแบบใดขายอยู่บ้างแล้ว ทั้งลิปสติกแบบ Bullet รูปแบบออริจินอลของลิปสติกที่เราเห็นมาตั้งแต่รุ่นแม่ย่ายาย ลักษณะแท่งหมุนที่คงความนิยมไม่เสื่อมคลาย หรือจะแบบที่สาวๆหลายคนเรียกว่าลิปจิ้มจุ่ม คือเป็นแท่งยาวใช้ส่วนแปรงจุ่มลงไปยังเนื้อผลิตภัณฑ์เพื่อนำมาทาลงบนริมฝีปาก มีหลายเนื้อผลิตภัณฑ์ทั้งเนื้อแมตต์ เนื้อมันวาว เนื้อเมทาลิก มีไปถึงลิปกลิตเตอร์ ลิปเรืองแสง


2.เจาะตลาดกลุ่มผู้ซื้อ

อยากทำลิปสติกแบรนด์ตัวเอง

เราจะมองข้ามเรื่องแผนการตลาดไปไม่ได้เลยในเมื่อเราต้องการขายของเราก็ต้องมองหาตลาดที่จะทำให้การขายของเราสำเร็จลุล่วงด้วย ทั้งนี้เราก็ต้องดูว่าเราอยากทำสินค้าให้ตรงตามกลุ่มผู้บริโภค หรือเราอยากทำสินค้าตามใจเราแล้วไปเจาะตลาดกลุ่มผู้ผริโภคเอาที่หลัง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราก็ต้องศึกษากลุ่มผู้บริโภคที่เราต้องการจะขายของให้ เช่น หากกลุ่มผู้บริโภคของเราเป็นนักเรียน นักศึกษา แน่นอนว่าราคาจะต้องย่อมเยาว์สักนิดให้น้องๆซื้อได้ไม่ต้องคิดมาก ส่วนเนื้อผลิตภัณฑ์ก็อาจะเป็นเนื้อ Sheer คือเนื้อลิปสติกที่มีลักษณะบาง ไม่หนามากใช้ทาได้ทุกโอกาส (ทั้งนี้ก็แล้วแต่ความชอบ) สีสันก็อาจจะต้องเป็นสีสุภาพสักหน่อย สีดำ สีเขียว อาจจะเป็นรุ่นพิเศษสำหรับโอกาสอื่นๆ หรือสำหรับลูกค้ากลุ่มอื่นไปเลย


3.โรงงานผลิตได้มาตรฐาน

อยากทำลิปสติกแบรนด์ตัวเอง

เมื่อเรามีรูปแบบลิปสติกในใจ มีกลุ่มเป้าหมายที่เราอยากจะขายลิปสติกของเราแล้ว ขั้นตนอต่อมาก็คือกระบวนการผลิต ในปัจจุบันที่สาวๆกันมาดูและตัวเอง ตลาดเครื่องสำอางเป็นที่นิยมมากยิ่งขึ้น โรงงานผลิตเครื่องสำอางก็เพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน การจะเลือกโรงงานใดโรงงานหนึ่งมาผลิตสินค้าให้กับเรา เราก็ต้องศึกษาข้อมูลของโรงงานนั้นให้ครบถ้วนดีเสียก่อน ว่าโรงงานนั้นได้มาตรฐาน ได้รับการยอมรับ และตรวจสอบที่ถูกต้องหรือไม่ เมื่อเราตรวจสอบจนแน่ใจแล้วก็ดำเนินการขั้นต่อไปได้เลย


4.เลือกสูตรลิปสติก

อยากทำลิปสติกแบรนด์ตัวเอง

แน่นอนว่าลิปสติกแต่ละรูปแบบมีส่วนผสมที่แตกต่างกัน เช่นลิปสติกเนื้อแมตต์ที่มีส่วนผสมของแป้งที่มากกว่าลิปชนิดอื่น หรือลิปกลอสที่มีส่วนผสมที่มีลักษณะเป็นน้ำมันเป็นหลัก ทั้งนี้คือสูตรที่แต่ละโรงงานอาจจะมีให้เราเลือกใช้ หรือถ้าเราไม่พอใจ ไม่อยากให้ผลิตภัณฑ์ของเราไปมีลักษณะที่ซ้ำกับใคร เราก็อาจจะพัฒนาสูตรขึ้นมาเอง ถ้าโรงงานที่เราเลือกผลิตด้วยเป็นโรงงานแบบ One stop service คือมีบริการทุกอย่างครบจบในที่เดียว เราก็อาจปรึกษากับนักเคมีภัณฑ์เครื่องสำอาง หรือเภสัชกรที่ประจำอยู่ที่โรงงานนั้นๆได้เลย หรือจะไปแลปเครื่องสำอางเพื่อให้เขาช่วยพัฒนาสูตรที่เราต้องการ แล้วค่อยนำกลับมาผลิตที่โรงงานก็ยังได้


5.บรรจุภัณฑ์ สำคัญอย่างไร

อยากทำลิปสติกแบรนด์ตัวเอง

เมื่อมีผลิตภัณฑ์แล้ว ก็ต้องมีบรรจุภัณฑ์เพื่อใช้ในการบรรจุ การออกแบบบรรจุภัณฑ์เป็นเหมือนการเจอกันครั้งแรกระหว่างสินค้า กับลูกค้า อาจเป็นรักแลกพบเลยก็ได้ ถ้าบรรจุภัณฑ์ของคุณดูดีจนซื้อใจได้ตั้งแต่ครั้งแลกที่ลูกค้าเห็นแบบนั้นคงจะดีไม่น้อยใช่ไหมล่ะ เราก็ต้องมาดูว่าบรรจุภัณฑ์แบบไหนจะทำให้ลูกค้าหันมาสนใจได้ในตลาดปัจจุบันที่มีลิปสติกมากมายทั้งแบรนด์ไทยแบรนด์เทศ เราจะเห็นได้ว่าลิปสติกไม่ได้มีแค่แบบแท่งที่เราคุ้นตาอีกต่อไป บางเจ้าก็ทำออกมาเป็นลักษณะเหมือนไอศกรีม บรรจุภัณฑ์เป็นรูปอมยิ้ม รูปผลไม้ หรืออย่างการนำเอาคาแรคเตอร์ต่างๆมาใส่ไว้บนบรรจุภัณฑ์ เพื่อจูงใจผู้ซื้อที่ชอบคาแรคเตอร์นั้นๆอยู่แล้วให้มาซื้อ ดังนั้นการออกแบบบรรจุภัณฑ์จึงถือเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญมากทีเดียว


6.ชื่อแบรนด์โดนใจ

อยากทำลิปสติกแบรนด์ตัวเอง

การตั้งชื่อแบรนด์ถือเป็นอีกสิ่งสำคัญ มีทั้งเรื่องของการสื่อถึงตัวตนของเราผ่านชื่อ เอกลักษณ์ และอัตลักษณ์ ชื่อที่จำง่าย และชื่อที่ถูกโฉลก แน่นอนว่าเราหนีไม่พ้นเรื่องความเชื่อ และก็ไม่ถือเป็นการเสียหายถ้าเราจะปรึกษาผู้มีความรู้ด้านอักษร การตั้งชื่อ ชื่อสิริมงคลหรืออะไรก็ตามแต่สักหน่อย แต่ที่สำคัญที่สุดคือการตั้งชื่อที่เราเองถูกใจ และชื่อที่ลูกค้าจะจำได้ดี


7.ทดลองใช้ ก่อนขาย

อยากทำลิปสติกแบรนด์ตัวเอง

เมื่อมีสูตรลิปสติกแล้ว โดยส่วนมากทางโรงงานก็จะผลิตเป็นชุดตัวเอย่างออกมาก่อนให้เราได้ลองใช้ ขั้นตอนทดลองใช้ถือเป็นอีกขั้นตอนสำคัญที่จะทำให้เรารู้จักผลิตภัณฑ์ของเราได้ดีขึ้น และเพื่อหาจุดบกพร่องในผลิตภัณฑ์ของเรา หากสูตรที่ผลิตออกมายังไม่ถูกใจเรา ลิปสติกยังติดทนไม่พอ เนื้อลิปยังไม่ถูกใจอาจจะแห้งไป ชุ่มชื้นไป ขั้นตอนนี้เองที่จะทำให้เราปรับปรุงสูตรให้เป็นไปตามความต้องการของเราได้ จนกว่าเราจะเจอลิปสติกที่ใช่


8.วางแผนการตลาด

อยากทำลิปสติกแบรนด์ตัวเอง

โรงงานหลายๆแห่ง มักมีแผนกการตลาดคอยช่วยเหลือลูกค้าที่ผลิตสินค้าที่โรงงานนั้นๆอยู่แล้ว หรือถ้าไม่มี และเราเองไม่ได้มีความรู้เรื่องการตลาดมากนัก เราก็ลองจำกัดความง่ายคือ ใคร ที่ไหน เท่าไหร่ อย่างไร เราจะขายใครบ้าง เราจะขายที่ไหน ราคาสินค้าของเราเท่าไหร่ และ เราจะขายอย่างไร จะทำการตลาดออนไลน์ หรือจะมีหน้าร้าน มีร้านป็อบอัพในงานแฟร์ต่างๆ หรือจะแค่ขายในโซเชียลมีเดียว


9.โฆษณาสินค้า

อยากทำลิปสติกแบรนด์ตัวเอง

การที่ผู้บริโภค ลูกค้าจะรู้จักสินค้าของเราได้เราก็จะต้องโฆษณาให้เขารู้ หมั่นโฆษณาบ่อยๆเพื่อให้ผู้คนเห็นสินค้าของเราให้ได้มากที่สุด เพื่อให้สินค้าของเราเป็นที่คุ้นตา และสร้างความตื่นตัวให้กับตลาด โดยในส่วนนี้คุณสามารถนำโซเชียลมีเดียต่าง ๆ เข้ามาช่วยเพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น รวมถึงต้นทุนถูก ง่าย และรวดเร็ว ที่คุณก็สามารถเริ่มต้นได้ง่าย ๆ ด้วยต้นเอง


10.ต้นทุน กำไร ภาษี

อยากทำลิปสติกแบรนด์ตัวเอง

ในทุกการลงทุนมีความเสียงเสมอ ดั้งนั้นในทุกๆขั้นตอนควรวางแผนให้ดีเพื่อให้สินค้าของเราประสบความสำเร็จ ทั้งค่าใช้จ่ายตั้งแต่ขั้นตอนการผลิต ไปจนถึงการออกแบบ การทำโฆษณาต่างๆ เราก็ควรศึกษาให้ดีด้วย เพื่อกำไร และการเสียภาษีที่จะเกิดขึ้นตามหลัง ในส่วนนี้หากคุณทำบัญชีอย่างต่อเนื่องและเป็นประจำอยู่แล้วละก็จะช่วยได้มากในการเห็นภาพรวมรายรับรายจ่ายทั้งหมด รวมไปถึงช่วยให้คุณวางแผนการเลินได้เป็นอย่างดีอีกด้วยนั่นเอง