เรื่องราว โพรไบโอติกส์, พรีไบโอติกส์, ซินไบโอติกส์ และโพสไบโอติกส์
สวัสดีค่ะ กลับมาอีกครั้งกับข้อมูลดีๆ จาก RVM วันนี้เรามีประเด็นฮอตที่ได้รับความสนใจอย่างมากในตอนนี้ คือ เรื่องราวของโพรไบโอติกส์ (probiotics) พรีไบโอติกส์ (prebiotics) ซินไบโอติกส์ (synbiotics) และโพสไบโอติกส์ (postbiotics) มาแบ่งปันกันค่ะ เรามาเรียนรู้ไปพร้อมๆ กันเลยค่ะ
โพรไบโอติกส์ คืออะไร?
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ประเทศไทยได้ให้ความหมายของโพรไบโอติก ว่า คือ “จุลินทร์ที่มีชีวิตซึ่งเมื่อร่างกายได้รับในปริมาณที่เพียงพอจะทำให้เกิดผลที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ” ซึ่งมีงานวิจัยทั้งในเรื่องการส่งเสริมระบบทางเดินอาหารให้ทำงานได้เป็นปกติ การลดระดับคอเลสเตอรอล ลดระดับความดันโลหิต การลดติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร ปรับเปลี่ยนการทำงานของภูมิคุ้มกันในร่างกาย สร้างสารเมตาบอไลท์ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย และอื่นๆ อีกมากมาย โพรไบโอติกส่วนใหญ่เป็นแบคทีเรีย มียีสต์บ้างแต่เป็นส่วนน้อยค่ะ เรามักจะพบทั้งในรูปแบบของอาหาร สารเสริมอาหาร และในอาหารหมักดองประเภทต่างๆ ค่ะ
โพรไบโอติกมีหลายกลุ่มหรือตระกูล (Genus) ถ้าอธิบายง่ายๆ ก็คล้ายๆ กับการแยกระหว่างชื่อจังหวัด แต่ละจังหวัด ซึ่งกลุ่มโพรไบโอติกต่างๆ มีดังนี้ค่ะ
- แลคโตบาซิลลัส (Lactobacillus)
- บิฟิโดแบคทีเรียม (Bifidobacterium)
- แซคคาโรไมซีส (Saccharomyces) ซี่งอยู่ในกลุ่มยีสต์
- สเตรปโตคอคคัส (Streptococcus)
- เอนเทอโรคอคคัส Enterococcus
- เอสเชอรีเชีย (Escherichia)
- บาซิลลัส (Bacillus)
ในแต่ละจังหวัดก็จะมีอำเภอใช่ไหมคะ ซึ่งเปรียบเสมือนชนิด (Species) ของโพรไบโอติกนั้นๆ ค่ะ เราจะสังเกตุว่า ชื่อของโพรไบโอติกก็จะเริ่มยาวขึ้นแล้วค่ะ เช่น Lactobacillus reuteri Bifidobacterium longum
ในแต่ละอำเภอก็จะต้องมีตำบลค่ะ หรือ สายพันธุ์(Strain) เราจะเห็นคำต่อท้ายด้วยรหัสหรือตัวเลขแปลกๆ เช่น Bifidobacterium lactis HNO19 (ใช้ลดความรุนแรงของโรคท้องร่วงในลูกสุกร ) Lactobacillus plantarum sp. P28-32 (พบในปูเค็ม) Lactobacillus delbrueckii ssp. bulgarius (พบในโยเกิร์ต) เป็นต้น
ในการคัดเลือกโพรไบโอติกในเชิงคุณภาพ เพื่อให้ได้โปรไบโอติกสายพันธุ์ดีๆ นั้นเราดูที่ระดับตำบลหรือ strain กันค่ะ ยกตัวอย่างเช่น นักวิทยาศาสตร์มักนิยมใช้เซลล์ต้นกำเนิดของอิพิทีเลียมเซลล์ของลำไส้ (Caco-2) มาเพาะเลี้ยงในหลอดทดลองเพื่อดูความสามารถของโพรไบโอติกในการยึดเกาะกับผนังลำไส้หรือความสามารถในการครองพื้นที่และทำลายเชื้อก่อโรคของ จากนั้นเมื่อได้เชื้อที่ดีที่สุดแล้วจึงทำการทดลองในสิ่งมีชีวิตขั้นถัดไป ไม่ว่าจะการทำการศึกษาถึงความเป็นพิษกับสัตว์ รูปแบบการนำไปใช้และผลกระทบ ความเป็นไปได้ในการผลิต
แบคทีเรียที่สนใจทั้งทางด้านอุตสาหกรรม เทคโนโลยี ต้นทุน ข้อกฏหมาย เป็นต้น จนกว่าจะได้โพรไบโอติกสายพันธุ์ที่ให้ผลลัพธ์ที่เฉพาะเจาะจง ฉะนั้นจึงไม่จำเป็นต้องใช้วิธีการเลือกกลุ่มตระกูล (หรือจังหวัด) เยอะๆไว้ก่อนแบบเดียวกับการเลือกมัลติไวตามินเลยค่ะ อาจจะเลือกแบบ multi-strain ซึ่งแต่ในแต่ละ strain นั้นควรจะมีประโยชน์เฉพาะเจาะจงตามที่เราต้องการ เมื่อเป็นเช่นนี้การรู้ชื่อของสายพันธุ์จุลินทรีย์จึงเป็นเพียงวิธีการเดียวในการทราบถึงประโยชน์ของจุลินทรีย์นั้นๆ นอกจากนี้ ปริมาณที่เหมาะสมของสายพันธุ์ที่ถูกต้องก็เป็นสิ่งสำคัญ ผลิตภัณฑ์โพรไบโอติกที่ดีจึงควรให้ความสำคัญกับคุณภาพมากกว่าปริมาณนั่นเองค่ะ
เกณฑ์ในการเลือกในเบื้องต้น
- จำแนกได้ชัดเจนถึงระดับสายพันธุ์ (strain)
- ทนต่อกรดและน้ำดีเพื่อที่จะอยู่รอดไปถึงลำไส้ใหญ่ได้
- มีความสามารถในการยึดเกาะกับผนังลำไส้
- มีปริมาณที่เพียงพอที่จะก่อให้เกิดผลดีและขยายจำนวนได้ในลำไส้ (ประมาณสิบล้าน-หนึ่งพันล้าน cfu/ml ของผลิตภัณฑ์)
- ให้ประโยชน์ต่อโฮสต์ (ผู้บริโภค) เช่น มีความสามารถในการต้านทานเชื้อก่อโรค เสริมธาตุอาหารที่จำเป็นและผลิตเอนไซม์ที่ส่งผลดีต่อโภชนาการ ปรับตัวได้ดี และมีประโยชน์ต่อการพัฒนาการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย
- มีหลักฐานยืนยันว่าปลอดภัยในการใช้
- มีความคงตัวสูงทนต่ออุณหภูมิในระดับต่างๆ โดยเมื่อผ่านกระบวนการผลิตโพรไบโอติกแล้วต้องสามารถที่จะมีชีวิตอยู่และเก็บรักษาได้นาน
ร่างกายของเรามีจุลินทรีย์มากกว่า 400 สายพันธุ์ แบ่งได้เป็น 3 กลุ่มตามชนิดของอาหารที่จุลินทรีย์ใช้ดังนี้ค่ะ
- กลุ่มที่ใช้แป้งเป็นอาหาร (Carbolytic bacteria) ได้แก่ Lactobacilli Eubacteria และ Bifidobacteria
- กลุ่มที่ใช้โปรตีนเป็นอาหาร (Proteolytic bacteria) ได้แก่ Pseudomonas aeruginosa Proteus Staphylococci Clostridium และ V. eillonellae
- กลุ่มที่ใช้แป้งและโปรตีนเป็นอาหาร ได้แก่ Enterococci E.coli Streptococci และ Bacteroides กลุ่มที่ใช้แป้งเป็นอาหารจะได้ Lactate ซึ่งเป็น ไขมันสายสั้น (Short Chai Fatty Acid : SCFA) ช่วยรักษาสภาวะแวดล้อมของเหลวในลำไส้ ขณะเดียวกันก็ปล่อยสารที่เรียกว่า แบคทีรีโอซิน (Bacteriocin) มีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อและควบคุมเชื้อก่อโรค แบคทีเรียแลคติกบางสายพันธุ์เราสามารถนำมาประยุกต์ในการถนอมอาหารแทนการใช้สารเคมี อย่างเช่น โพแทสเซียมไนเตรทได้ และหากอาหารของแบคทีเรียกลุ่มนี้เป็นกลุ่มเส้นใยอาหารและกลุ่มโอลิโกแซคคาไรด์ซึ่งไม่สามารถย่อยในลำไส้เล็กได้และเคลื่อนมาที่ลำไส้ใหญ่ อาหารกลุ่มนี้จะเกิดเป็นการหมัก (Fermentation) ซึ่งเมื่อเชื้อเหล่านี้ได้รับอาหารจะมีการเพิ่มจำนวนมากขึ้น และผลิตกรดไขมันสายสั้นเช่น Lactate Acetate Butyrate Proprionate เพิ่มขึ้น ซึ่งจะย้อนกลับเป็นพลังงานให้กับเซลล์เยื่อบุผนังลำไส้ใหญ่อีกทีค่ะ (เรากำลังจะพูดถึงต่อไปในเรื่องของพรีไบโอติกค่ะ)
คราวนี้เราลองมาทำความรู้จักกับโพรไบโอติกกลุ่มเด่นๆ ที่มักพบในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกันค่ะ จะขอยกตัวอย่างบางกลุ่มเด่นๆ ที่อนุญาติให้ใช้ในประเทศไทยให้รู้จักกันนะคะ
แลคโตบาซิลลัส (Lactobacillus)
เป็นกลุ่มแบคทีเรียแลคติกกลุ่มใหญ่ที่สุด (สามารถผลิตกรดแลคติกหรือกรดน้ำนมได้ มีความหลากหลายทางพันธุกรรม คุณสมบัติทางชีวเคมี และสรีระ พบได้ในลำไส้เล็ก ทางเดินปัสสาวะ และช่องคลอด พบมากในอาหารและนม แบคทีเรียชนิดนี้สามารถสร้างไบโอฟิล์มเพื่อให้อยู่รอดในสภาวะที่ไม่เอื้ออำนวย เช่น สภาวะกรดในกระเพาะอาหาร ช่วยผลิตสารอาหารและวิตามิน ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน และช่วยป้องกันสารก่อมะเร็งบางชนิด ตัวอย่างของแบคทีเรียกลุ่มนี้ คือ L. acidophillus L. reuteri L. rhamnosus GG และ L. casei เป็นต้น มีรายงานถึง L. animalis และ L. fermentum มีความสามารถในการยึดเกาะกับผนังลำไส้ของกระเพาะ ลำไส้เล็ก และลำไส้ใหญ่ทำให้กีดขวางการจับของเชื้อก่อโรคได้
บิฟิโดแบคทีเรียม ( Bifidobacterium)
พบในช่องปาก ลำไส้ใหญ่ และช่องคลอด มีประโยชน์ในการช่วยย่อยอาหาร ช่วยผลิตกรดไขมันสายสั้น และช่วยลดการอักเสบ ช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน และผลิตวิตามินบางชนิดให้กับร่างกาย ตัวอย่างในกลุ่มนี้ ได้แก่ B. bifidum B. infantis B. longum B. Thermophilum จากการศึกษาพบว่ากลุ่มแบคทีเรียแลคโตบาซิลลัส และบิฟิโดแบคทีเรียม สามารถลดฤทธิ์ของอะฟลาทอกซินได้ หลายการศึกษาพบว่าบิฟิโดแบคทีเรียมให้ผลดีเมื่อรับประทานปริมาณหนึ่งพันล้านหน่วยโคโลนีต่อวัน
แซคคาโรไมซีส (Saccharomyces)
S. boulardii เป็นยีสต์ชนิดหนึ่ง ที่ใช้รักษาสมดุลย์ในทางเดินอาหารมาเป็นเวลา 30 ปี ปัจจุบันใช้ในการรักษาและป้องกันอาการท้องเสียหลายแบบ ได้แก่ ท้องเสียในเด็กและทารก ท้องเสียจากการท่องเที่ยว ท้องเสียที่เกี่ยวกับการใช้ยาปฏิชีวนะ และท้องเสียที่มีสาเหตุมาจากเชื้อ Clostridium difficile มักพบในชาหมัก และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
กองทัพ (โพรไบโอติก) ต้องเดินด้วยท้อง
อาหารของโพรไบโอติก ก็คือ พรีไบโอติก (Prebiotic) นั่นเองค่ะ พรีไบโอติกนั้นไม่ใช่สิ่งมีชีวิต และร่างกายเราไม่สามารถย่อยได้ มีเพียงโพรไบโอติกเท่านั้นที่จะทำการย่อยหรือหมักและจะทำให้โพรไบโอติกเพิ่มจำนวนขึ้น เนื่องจากประโยชน์ส่วนใหญ่ที่ได้จากโพรไบโอติกจะเกิดจากเชื้อที่มีชีวิตอยู่ ในขณะเดียวกัน จำนวนของเชื้ออาจจะลดลงได้จากหลายปัจจัยเช่น กระบวนการผลิต การขนส่ง ความเป็นกรด-ด่าง เวลา และอุณหภูมิ เราจึงอาศัย พรีไบโอติก เสริมสร้างการเจริญเติบโตและกิจกรรมของจุลินทรีย์ในลำไส้เหล่านี้ เพื่อให้ได้เราได้ประโยชน์สูงสุดและอุดรอยรั่วจากปัจจัยต่างๆ ที่จะทำให้เชื้อจุลินทรีย์ดีๆ ลดจำนวนลง
ในความเป็นจริงรูปแบบอาหารหลักที่เราทานในแต่ละวันล้วนเป็นตัวกำหนดสัดส่วนสายพันธุ์โพรไบโอติกในร่างกายเรา หากเราทานอาหารที่ดี แน่นอนว่าจำนวน และสัดส่วนเชื้อที่ดีในลำไส้ย่อมดีไปด้วย แต่ไม่ใช่เส้นใยอาหารทุกชนิดจะสามารถเป็นพรีไบโอติกได้นะคะ พรีไบโอติกที่มีในธรรมชาติ เช่น ข้าวสาลี หัวหอม กล้วย กระเทียม มันแกว แก่นตะวัน เป็นต้น ซึ่งหลายๆ คนอาจจะมีข้อจำกัดในการหามารับประทาน จึงมีพรีไบโอติกในรูปแบบของสารเสริมอาหารมาช่วยให้เราได้พรีไบโอติกอย่างเพียงพอ ได้แก่ ฟรุคโตโอลิโกแซคคาไรด์ (Fructooligosaccharides; FOS) และ อินนูลิน (Inulin) มาช่วยทดแทนค่ะ
พรีไบโอติก ไม่เพียงแต่ส่งเสริมการเจริญเติบโตของโพรไบโอติกให้เพิ่มจำนวนมากขึ้น ยังมีประโยชน์เช่นเดียวกับเส้นใยอาหารค่ะ คือ ช่วยในการลดระดับไขมันน้ำตาลในเลือด มีผลทำให้เพิ่มความรู้สึกอิ่ม ยับยั้งการบริโภคอาหาร ลดมวลไขมันและน้ำหนักตัว ป้องกันฟันผุ ช่วยดูดซึมแร่ธาตุบางชนิดอย่างเช่น แมกนีเซียม แคลเซียม เป็นต้น ซึ่งจัดเป็น functional food ที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียวใช่มั้ยคะ
ซินไบโอติก (Synbiotic) ทางเลือกที่สะดวกขึ้นของผู้บริโภค
ซินไบโอติกทำการรวมทั้งโพรไบโอติกและพรีไบโอติกเข้าด้วยกัน เรียกไว้ว่า มีทั้งเชื้อที่ดีและอาหารของเชื้อที่ดีพร้อมใช้กันเลยทีเดียวค่ะ ทำให้สะดวกต่อผู้บริโภคมากขึ้นค่ะ
โพสไบโอติก (Postbiotic) นวัตกรรมแห่งอนาคต
ผู้นำนวัตกรรมเรื่องสารเสริมอาหารอย่าง RVM อย่างเราไม่พูดไม่ได้เลยค่ะ ในเมื่อเราทานโพรไบโอติกเข้าไปเพื่อหวังประโยชน์ให้เชื้อดีๆ เหล่านี้ช่วยสร้างสารที่ดีต่อต่างๆ ต่อร่างกายขึ้นมา แล้วทำไมเราไม่ทานสาร(ที่ผลิตจากเชื้อเหล่านี้) เข้าไปเสียเลยหล่ะ ใช่ค่ะ! โพสไบโอติก คือ สารที่เหล่าจุลินทรีย์ดีๆ สร้างขึ้นมาซึ่งมี หลายชนิดไม่ว่าเป็น กรดไขมันสายสั้น เปปไทด์ มูโคเปปไทด์ (Mucopeptides) เทโคอิค แอซิด (Teichoic acid) เป็นต้น มีประโยชน์กับสุขภาพของเรา โพสไบโอติกนั้นจริงๆ อยู่คู่กับ โพรไบโอติกค่ะ แม้เชื้อตายไปแล้วแต่สารที่เชื้อผลิตมานั้นยังคงอยู่ แต่การสกัดออกมาแล้วรับประทานโดยตรงเลยนั้น ช่วยตัดปัญหาเรื่องของความสามารถในอยู่รอดการเชื้อดีๆ หรือเหมาะสำหรับบางคนที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อง่าย ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เด็กเล็ก ช่วยลดการอักเสบ เช่น การอักเสบที่เกิดการรับประทานกลูเตน ได้รับผลประโยชน์ที่แน่นอนเฉพาะเจาะจงมากกว่า เป็นต้น RVM จะขอยกตัวอย่างของโพสไบโอติกที่เริ่มมีมาขายในตลาด เช่น โปรตีนไฮโดรไลเซทจาก Saccharomyces cerevisiae (ซึ่งเป็นยีสต์ที่ใช้ในการหมักเบียร์) โดยคุณสมบัติโปรตีนชนิดนี้คือช่วยให้อิ่ม ทำให้ลดการรับประทานอาหาร และส่งผลต่อการลดน้ำหนัก (แต่การทดลองยังเป็นกลุ่มเล็กเราอาจจะต้องรอไปอีกซักนิดค่ะ) อีกตัวนึงที่น่าสนใจคือ Immunopeptide extract จากโพรไบโอติก หรือ Heat Killed Lactobacillus Plantarum L137 (HK L-137) ซึ่งเป็นโพสไบโอติกที่ช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในลำไส้ หรือผลิตภัณฑ์ butyrate ต่างๆ เป็นต้นค่ะ
วันนี้เอาพอหอมปากหอมคอเท่านี้ก่อนนะคะ หวังว่าทุกคนคงจะได้ความรู้นำไปใช้เลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับตัวไม่มากก็น้อยนะคะ แล้วเรากลับมาพบกับสาระดีๆ จาก RMV กันใหม่ในครั้งถัดไปค่ะ
———
หากถูกใจ หรือ คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ
ฝากกดไลค์ กดแชร์ และกดติดตามเพจของเราด้วยนะคะ
https://www.facebook.com/revomedthailand
เพื่อเป็นแรงใจในการสร้างสรรและมุ่งมั่นส่งต่อสิ่งดีดี ต่อไปค่ะ
——————– —————-
อยากเป็นเจ้าของแบรนด์ อยากจ้างผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ
อยากสร้างความต่าง เพิ่มโอกาสในการขาย หรือ
ติดตามเรื่องราวดี ๆ ทั้งการตลาด นวัตกรรม ความงามและสุขภาพ
กดติดตามได้ที่เพจนี้เท่านั้น [อย่าลืมกด See First นะคะ]
หรือ ช่องทางติดตามอื่น ๆ ติดต่อเราได้เลยค่ะ
Tel : 061-662-4242
Line @ : @Revomed (มี@ด้านหน้านะคะ)
LINE OA: https://line.me/R/ti/p/%40revomed
Facebook:
https://www.facebook.com/revomedthailand
Website: www.revomed.co.th
Instagram: https://www.instagram.com/revomedthailand
Youtube: http://bit.ly/RevomedYouTube
——————– —————-
#อายุน้อยร้อยล้าน #RevomedThailand #รีโว่เมด
#OEMเครื่องสำอาง #OEMอาหารเสริม #คุณภาพGMP
#เจ้าหญิงวงการอาหารเสริม #รับจ้างผลิต #รับสร้างแบรนด์
#โรงงานอาหารเสริม #โรงงานเครื่องสำอาง #โรงงานผลิตครีม
เอกสารอ้างอิง
- ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องการใช้จุลินทรีย์โพรไบโอติกในอาหาร พ.ศ. 2554. (2554, 27 มิถุนายน). ราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 128 ตอนที่ 86 ง.
- ไชยวัฒน์ ไชยสุต 2556. โพรไบโอติกจุลินทรีย์ทางเลือกเพื่อสุขภาพ PROBIOTIC Alternative Microorganism for Health. พิมพ์ครั้งที่ 1. นนทบุรี : สำนักการแพทย์ทางเลือกกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข
- ธรณัส กระต่ายทอง 2562. เอกสารประกอบการสอนวิชา B5 Probiotic and Gut Health: หลักสูตรวิชาวิทยาการชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ.มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต.
- เบญจมาส ถนอมทรัพย์ 2002. โปรไบโอติกและพรีไบโอติก. เวชสาร คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปีที่ 9(2):89-98
- พนารัตน์ มอญใต้ 2555. เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับจุลินทรีย์ที่เป็นมิตร: โปรไบโอติก (Probiotic). วารสารกรมวิทยาศาสตร์บริการ ปีที่ 60(189):13-15.
- พัทธ์ธีรา โสดาตา. ประโยชน์ของโพรไบโอติก. คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สืบค้นทางอินเตอร์เน็ต https://www.google.com/url?sa=t&source=web&rct=j&url=https://pharm.tu.ac.th/uploads/pharm/pdf/articles/20181002_4.pdf&ved=2ahUKEwjWjMf01_zvAhU2zTgGHRuRAgYQFjAAegQIBRAC&usg=AOvVaw13S9DbIw8vkEOGc8ARakQU วันที่ 10 เมษายน 2564
- สุภัจฉรา นพจินดา 2021. โพรไบโอติกส์กับการส่งเสริมสุขภาพ Probiotics for Health Promotion. วารสารพยาบาลทหารบก. ปีที่ 15(3):430-435.
- เอกราช บำรุงพืชน์ 2562. เอกสารประกอบการสอนวิชาคาร์โบไฮเดรต: หลักสูตรวิชาวิทยาการชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ.มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต.
- เอกราช บำรุงพืชน์ 2564. เอกสารประกอบการสอนวิชาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารลดน้ำหนัก : หลักสูตรวิชาวิทยาการชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ.มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต.
- อรวรรณ ละอองคำ 2562. โพรไบโอติก : จุลินทรีย์คัดสรรเพื่อสุขภาพ Probiotic : Thecselected microorganism for human health. วารสารอาหาร ปีที่ 49(4):29-38.
- https://www.consumerlab.com/reviews/probiotic-supplements/probiotics/ สืบค้นวันที่ 10 เมษายน 2564
- https://www.precisionnutrition.com/do-probiotics-work#probiotics-chart สืบค้นวันที่ 10 เมษายน 2564
- https://www.metagenicsinstitute.com/?s=Probiotic สืบค้นวันที่ 13 เมษายน 2564