ประโยชน์ 5 ข้อ ที่เจ้าของแบรนด์จะได้จาก Data-Driven Marketing

Data-Driven Marketing หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อ “การตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล” เป็นสิ่งที่เจ้าของแบรนด์ยุคใหม่ต้องให้ความสำคัญในการวางแผนธุรกิจ ทั้งในด้านการพัฒนาโมเดลธุรกิจ การพัฒนาสินค้า การพัฒนาการบริการ การทำแคมเปญโฆษณา และการดูแลหลังการขาย เพื่อให้ได้สินค้าและบริการที่สามารถตอบสนองความต้องการ/ แก้ปัญหา ของลูกค้าแบบเฉพาะเจาะจงและโดนใจ

ยิ่งหากแบรนด์สามารถใช้ Data ให้เกิดประโยชน์กับการตลาดมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเข้าถึงกลุ่มลูกค้าในตลาดใหม่ ๆ มากยิ่งขึ้น และสามารถนำไปปรับใช้กับแบรนด์ได้ครอบคลุมหลากหลายช่องทาง เพราะความต้องการของลูกค้า เทคโนโลยี และเทรนด์การตลาด นั้นมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ การตลาดแบบเดิม ๆ ที่แบรนด์เคยใช้ในอดีตอาจไม่ตอบโจทย์กับความต้องการของผู้บริโภคในยุคดิจิทัล ที่ต้องการความไว ความเฉพาะตัว และมีความคาดหวังในตัวแบรนด์มากกว่าอดีต ซึ่งการที่แบรนด์จะสามารถเข้าใจถึงเหตุผล ความต้องการ และพฤติกรรมของลูกค้าได้อย่างดีในยุคนี้ เจ้าของแบรนด์เองจะต้องรู้จักใช้ข้อมูล และเครื่องมือที่เหมาะสม เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการทำการตลาดของแบรนด์ อย่างน้อย 5 ข้อดังนี้

1. เข้าใจถึงพฤติกรรม และความต้องการของลูกค้าได้มากและลึกยิ่งขึ้น (Personalization)

เข้าใจถึงพฤติกรรม และความต้องการของลูกค้าได้มากและลึกยิ่งขึ้น (Personalization)

เข้าใจถึงพฤติกรรม และความต้องการของลูกค้าได้มากและลึกยิ่งขึ้น (Personalization)

“รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง” ในทางการตลาดเราจะได้ยินคำนี้บ่อยๆ และถ้าเราสามารถนำมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะกับการทำธุรกิจของเราได้ก็ยิ่งเกิดประโยชน์ โดยเฉพาะการรู้เขา หรือ การรู้จักกับความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า รู้และเข้าใจว่าปัญหาที่แท้จริงของลูกค้าคืออะไร และนำเสนอขายให้ตรงจุด ก็จะสามารถช่วยเพิ่มยอดขายและส่วนแบ่งทางการตลาดให้แบรนด์ของเราได้ จากตัวอย่างที่เห็นในรูป (ข้อมูลจาก Salesforce Research) แสดงให้เห็นว่าความคาดหวังของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์ และสิ่งที่ลูกค้าได้รับจากแบรนด์ ยังค่อนข้างห่างไกล นั่นแสดงให้เห็นว่า แค่เราเข้าใจลูกค้ามากขึ้น ตอบสนองได้ตรงจุดมากขึ้น ลูกค้าก็น่าจะมีความพึงพอใจต่อแบรนด์ของเรามากขึ้นเช่นกัน

2. ใช้ข้อมูลที่มีในการพัฒนาสินค้าหรือบริการใหม่ๆ (New Product Data-Driven)

“ลูกค้าซื้อสินค้าเรา เพื่อแก้ปัญหาของเขา” ดังนั้น การมีข้อมูลที่เพียงพอและนำมาใช้ประโยชน์ได้จริง จะสามารถช่วยให้แบรนด์สามารถนำเสนอสินค้าและบริการใหม่ๆ ที่สามารถแก้ปัญหาและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างแท้จริง ซึ่งเป็นการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน และเพิ่มความภักดีต่อแบรนด์ (Brand Loyalty) ของลูกค้าได้เช่นกัน เพราะบางทีการที่เจ้าของแบรนด์จะอาศัยเพียงแค่ข้อมูลจากโรงงานผู้ผลิตอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ โดยเฉพาะธุรกิจด้านสุขภาพ ความงาม เครื่องสำอาง และอาหารเสริม ที่ความต้องการของลูกค้าเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว

3. กำหนดกลยุทธ์ได้ชัดเจน บนฐานของข้อมูล ไม่ใช่มโน (Clear-Cut Clarity)

กำหนดกลยุทธ์ได้ชัดเจน บนฐานของข้อมูล ไม่ใช่มโน (Clear-Cut Clarity)

“การตลาดยุคนี้ ต้องตัดสินใจด้วย Data ไม่ใช่ Dao (เดา)” เพราะสภาพการแข่งขันที่รุนแรงและรวดเร็วในปัจจุบัน แบรนด์ที่ใช้ประโยชน์จากข้อมูลได้มากกว่าย่อมได้เปรียบในการแข่งขัน เพราะจะสามารถตัดสินใจทำ หรือ ไม่ทำอะไร ได้แม่นยำมากกว่า ไม่ต้องเสียเวลาลองผิด ลองถูก หรือฝากชีวิตไว้กับการคาดเดาที่ไม่มีข้อมูลสนับสนุนอีกต่อไป เช่น การที่แบรนด์จะกำหนดโปรโมชั่นแบบไหนให้โดนใจลูกค้า หรือ แม้กระทั่งการตัดสินใจเลือกโรงงานที่รับจ้างผลิตสินค้าให้กับแบรนด์ ก็จะต้องหาข้อมูลให้รอบด้าน และตัดสินใจเลือกจากผลการวิเคราะห์ข้อมูล ซึ่งอันนี้ก็เป็นกลยุทธ์การบริหารความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจอีกอย่างนึงด้วยเช่นกัน

4. วัดผลลัพธ์ได้ชัดเจน และตรงตามวัตถุประสงค์ (Performance Marketing)

วัดผลลัพธ์ได้ชัดเจน และตรงตามวัตถุประสงค์ (Performance Marketing)

“สุดท้ายแล้ว แบรนด์ทำการตลาดเพื่อหวังผลกำไร ไม่ใช่การกุศล” ดังนั้น ทุกกิจกรรมการตลาดที่ทำจะต้องสามารถวัดผลได้อย่างชัดเจนทั้ง ประสิทธิผล (Effectiveness) และ ประสิทธิภาพ (Efficiency) การนำ Data มาใช้ในงานด้านการตลาด จะช่วยให้เราสามารถเห็นภาพรวมของผลลัพธ์ที่ได้ และงบประมาณที่ลงไป ได้ชัดเจนแบบไม่คลุมเครือ โดยเฉพาะการตลาดออนไลน์/ ดิจิทัล (Digital Marketing) ซึ่งมีจุดเด่นเรื่องการวัดผลที่ง่ายและชัดเจนอยู่แล้ว สามารถติดตาม/ วัดผลทุกขั้นตอนเป็นตัวเลขได้ เพื่อนำมาใช้ในการวิเคราะห์ผลและกำหนดกิจกรรม/ กลยุทธ์ในขั้นตอนต่อไป เช่น การออกแบบบรรจุภัณฑ์ ก็อาจจะลองทำแบบตัวอย่าง แล้วลองให้ลูกค้าช่วยตัดสินใจว่าแบบใดดีว่ากัน หรือ การใช้เงินจ้าง Influencer โพสรูปสินค้าใน Facebook แล้วได้ยอดขายคุ้มกับค่าจ้างหรือไม่ เป็นต้น

5. ช่วยสร้างและรักษาความสัมพันธ์ระหว่างลูกค้ากับแบรนด์ (Customer Loyalty)

ช่วยสร้างและรักษาความสัมพันธ์ระหว่างลูกค้ากับแบรนด์ (Customer Loyalty)

“ในยุคที่ลูกค้าเปลี่ยนใจง่ายแบบนี้ แบรนด์ต้องกุมใจเขาไว้ให้ได้ ถึงจะสามารถอยู่รอดและเติบโตได้อย่างยั่งยืน” ทั้งนี้ จะกุมใจลูกค้าได้ ก็ต้องเข้าใจลูกค้าซะก่อน การทำการตลาดโดยการใช้ Data จะทำให้แบรนด์เข้าใจลูกค้าได้มากขึ้น ทั้งด้านปัญหา ความต้องการ ความสนใจ และพฤติกรรม เพื่อนำไปประกอบการกำหนดกลยุทธ์สำหรับดูแลลูกค้าประจำได้ดีขึ้น ด้วยการนำความสนใจและพฤติกรรมการใช้งานจากทุกช่องทาง ทั้ง Social Medea, Website, Search Engine, FB Ads, Tiktok Ads ฯลฯ มาวิเคราะห์ Insights ซึ่งการใช้ Data แบบนี้จะช่วยให้เห็นช่องทางการดูแลลูกค้าได้ตรงจุดมากขึ้น และจะส่งผลให้ลูกค้ารักและภักดีต่อแบรนด์มากขึ้นด้วยเช่นกัน

จะเห็นได้ว่า Data-Driven Marketing  มีประโยชน์ต่อเจ้าของแบรนด์มากมาย แต่อย่างไรก็ตามการเก็บ Data จากลูกค้าจะต้องอยู่ภายใต้ พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือ PDPA ( Personal Data Protection Act ) นั่นคือ จะต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล ไม่ละเมิดสิทธิ หรือนำข้อมูลลูกค้าไปใช้ในทางที่ผิด เป็นต้น

*** ทีมงานเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า >> ประโยชน์ 5 ข้อ ที่เจ้าของแบรนด์จะได้จาก Data-Driven Marketing << ที่เรานำเสนอในวันนี้ จะเป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ ได้ไม่มากก็น้อย หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกท่านจะนำไปปรับใช้กับการดำเนินงาน เพื่อให้สามารถบรรลุตามเป้าหมายที่ตั้งไว้กันได้นะคะ อย่ามัวลังเล ลงมือทำในวันนี้ อาจจะยังไม่สามารถทำได้ทั้งหมด แต่ก็ขอให้ได้ลองนำไปใช้ มากบ้าง น้อยบ้าง ตามศักยภาพของแต่ละคน … “ขอแค่ลงมือทำ แล้วชีวิตของคุณ #จะดีขึ้น” ***

———

Banner-01

———

หากถูกใจ หรือ คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ

ฝากกดไลค์ กดแชร์ และกดติดตามเพจของเราด้วยนะคะ

 https://www.facebook.com/revomedthailand

เพื่อเป็นแรงใจในการสร้างสรรและมุ่งมั่นส่งต่อสิ่งดีดี ต่อไปค่ะ

————————————

อยากเป็นเจ้าของแบรนด์ อยากจ้างผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ

อยากสร้างความต่าง เพิ่มโอกาสในการขาย หรือ

ติดตามเรื่องราวดี ๆ ทั้งการตลาด นวัตกรรม ความงามและสุขภาพ

กดติดตามได้ที่เพจนี้เท่านั้น [อย่าลืมกด See First นะคะ]

หรือ ช่องทางติดตามอื่น ๆ ติดต่อเราได้เลยค่ะ

Tel : 061-662-4242

Line @ : @Revomed (มี@ด้านหน้านะคะ)

LINE OA: https://line.me/R/ti/p/%40revomed

Facebook: https://www.facebook.com/revomedthailand

Website: www.revomed.co.th

Instagram: https://www.instagram.com/revomedthailand

Youtube: http://bit.ly/RevomedYouTube

————————————

#อายุน้อยร้อยล้าน #RevomedThailand #รีโว่เมด

#OEMเครื่องสำอาง #OEMอาหารเสริม #คุณภาพGMP

#เจ้าหญิงวงการอาหารเสริม #รับจ้างผลิต #รับสร้างแบรนด์

#โรงงานอาหารเสริม #โรงงานเครื่องสำอาง #โรงงานผลิตครีม